หวนคืนสนาม “ฟานไดค์” ลิเวอร์พูลไล่ไม่ทันพ่ายแพ้อุ่นลำแข้งแฮร์ธ่ามันส์หยด

หวนคืนสนาม

หวนคืนสนาม “เฟอร์กิล ฟาน ไดค์” ลงเป็นสำรองเกมนี้ ตั้งแต่เมื่อลงนัดหมายปัจจุบัน แต่ “ลิเวอร์พูล” กลับมาแผ่วช่วงหลัง

หวนคืนสนาม “เฟอร์กิล ฟาน ไดค์” ลงเป็นสำรองเกมนี้ ตั้งแต่เมื่อลงนัดหมายปัจจุบันเมื่อเดือน เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา แต่ ลิเวอร์พูลกลับมาแผ่วช่วงหลังแพ้ให้ “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่ได้ “สเตฟาน โยเวติช” ลงเปิดฉากเบิ้ลสองประตูไป 3-4

โดยพวกเขามีคิวลับหน้าแข้งอีกสองนัดหมายก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก สำหรับเพื่อการแข่ง ศึกฟุตบอลกระชับมิตรชมรม คืนวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมก่อนหน้านี้ สนาม : ทิโวลี่ สตาดิโอน ทิโรล (สนามกลาง)

ศึกฟุตบอลกระชับมิตรสมาคม คืนวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง เกมปัจจุบันเชือด ไมนซ์ นัดหมายอุ่นเกือก โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ มีข่าวดีเป็น “เฟอร์กิล ฟาน ไดค์” มีชื่อเป็นสำรอง

ในช่วงเวลาที่แนวรุกปรับเอา “มินามิโนะ” ลงยืนผนึกกับ “ซาลาห์-มาเน่” ดวล “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่หนักเสมอตอนเตรียมพร้อมถึงสามเกมติด พาล ดาร์ได ได้สตาร์ตัวเก๋า “เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง” หวนซบทีมในรอบ 14 ปี เคลื่อนเกมแมตช์นี้

ลิเวอร์พูลทักทายนาทีที่ 11 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วางบอลริมสนามด้านขวา บอลมาในจุดโทษ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กระแทกตั้งมาให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ วอลเลย์นอกกรอบ บอลโด่งออกข้างหลังไป

อีกสามนาทีต่อมา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ลากบอลมาหน้ากรอบจุดโทษไหลถัดไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โยกหลอกแนวรับแฮร์ธ่า ก่อนซัดบอลติดมือ อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์ ปัดทิ้งช่วยทีม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ครอสบอลผ่านมาจุดโทษ 6 หลาทางด้านซ้าย

ซาดิโอ มาเน่ เทคตัวโหม่งกดบอลลงพื้นทว่านายทวารหญิงสูงวัยลอยตัวเซฟ แต่ว่าไลน์แมนยอมแพ้ล้ำหน้าหัวหอกลิเวอร์พูลไปแล้ว นาทีที่ 16 แฮร์ธ่านำก่อน 1-0 ห้านาทีถัดมา มาร์วิน แพล็ทเทนฮาร์ดท์ เปิดบอลฟรีคิกระยะ 20 หลา

ก่อนเป็น ซานติอาโก้ อัสซาซิบาร์ สปีดมาด้านซ้าย พร้อมแหย่เท้ายิงบอลสวนตัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ ซุกตาข่าย แม้กระนั้นเจ้าตัวจำต้องแลกเปลี่ยนกับการบาดเจ็บถูกสลับตัวออก แล้วก็แล้วนาทีที่ 31 โดดี ลูเคบากิโอ รับบอลทางขวา

แทงเข้าจุดโทษฝากให้ ซูอัต แซร์ดาร์ แตะต้องบอลหนีผู้เล่นคู่ต่อสู้มาทางเสาแรก พร้อมซัดเสยเพดานประตู จำพวกที่นายด่านลิเวอร์พูลโผบินตัวปัดยังไม่ทัน หญิงชราฉีกเป็น 2-0 คอสตาส ซิมิคาส ดักบอลขว้างพลาดของมือกาวคู่ต่อสู้

หวนคืนสนาม ดึงมาด้านซ้ายปาดเรียดเข้ากึ่งกลาง ซาดิโอ มาเน่ ซัดจังหวะแรกติดแนวรับหญิงสูงวัย แล้วดีดซ้ำด้วยเท้าขวา พา ลิเวอร์พูล ไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 37 หงส์แดงตีคืน นาทีที่ 43 นาบี เกอิต้า จ่ายบอลทิ้งมาที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาตอกส้นในจุดโทษ ผลบอลสดภาษาไทย

หวนคืนสนาม

บอลเลยเข้าทาง ทาคุมิ มินามิโนะ ตั้งข้างเท้าแปบอลหนีมือ

หวนคืนสนาม อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์ ทำแต้มให้ทีมสำเร็จ หมดครึ่งแรกเสมอ 2-2 เริ่มช่วงหลังเพียงแต่สองนาที ซาดิโอ มาเน่ ใช้ความเร็ววิ่งหลุดปราการหลังคู่ปรปักษ์มาเก็บบอล แต่ว่าเจ้าตัวจับลั่น บอลถูกนายทวารแฮร์ธ่าทุบทิ้ง

ก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รีบยิงโดยทันทีบอลโผบินข้ามคาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พนันบอลไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ตบบอลย้อนมาหน้ากรอบจุดโทษ แนวรุกชาวอิยิปต์ส่งออกทางด้านขวา เจมส์ มิลเนอร์ หยอดบอลย้อย

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงสำรองโหม่งแม้กระนั้นบอลสูงเหลือเกิน นาทีที่ 49 หกนาทีถัดมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางลูกฟรีคิกจากทางด้านขวา ซาดิโอ มาเน่ ตามมากระแทกบอลกึ่งกลางจุดโทษ

แม้กระนั้นพบความเหนียวหนึบของนายทวารหญิงสูงอายุอยู่เหมาะสมสกัดไว้ได้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตอกส้นออกมาให้ ดีโอโก้ โชต้า ครอสบอลเข้ามาที่ ไคเด้ กอร์ดอน ตั้งหัวกระแทกบอลแต่ว่าโด่งลอยผ่านคานไปพอสมควร นาทีที่ 65

แต่ว่าอีกเพียงแต่นาทีเดียว โดดี ลูเคบากิโอ หาเหลี่ยมเปิดบอลริมเส้นทางขวา บอลผ่านคู่เซ็นเตอร์ลิเวอร์พูลตกใส่ สเตฟาน โยเวติช แนวรุกตัวใหม่หญิงชราโหม่งเข้าพังทลายประตูเม็ดแรกให้สังกัดเดิม แฮร์ธ่า นำอีกรอบ 3-2

ตอนนาทีที่ 69 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คัมแบ็กคืนสนามอีกทีในรอบเกือบจะ 10 เดือน นับจากลงนัดหมายปัจจุบันเมื่อเดือน เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา โดยลงมาแทน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ อีกหนึ่งลำแข้งที่ได้รับจังหวะต้นช่วงหลัง

สิบนาทีด้านหลังเกม สเตฟาน โยเวติช โชว์ความยอดเยี่ยมเลี้ยงบอลกลางสนาม ก่อนสัมผัสหลบ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ล้มเสียหลักในจุดโทษ แล้วหลุดไปยิงจ่ายบอลซุกก้นประตูเป็นลูกที่ของของเจ้าตัวนัดหมายเปิดฉากสนาม หญิงชรา ฉีกเป็น 4-2

สองนาทีก่อนหมดเวลา เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ดันสูงมาโหม่งบอลติดเซฟนายทวารคู่ปรับ ทุบมาเข้าเท้า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยิงสวนทีเดียวในจุดโทษจ่ายบอล จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ไม่ทันแพ้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-4 พ่ายนัดหมายเตรียมพร้อมเกมแรก

รายชื่อผู้เล่นที่ลงในสนาม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (4-2-3-1): อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์,ปีเตอร์ เปคาริค (เดโยไฟซิโอ เซเฟิค),นิคลาส ชตาร์ค (ลูคัส คลุนเทอร์),มาร์ทอน ดาร์ได (ลีนุส เกชเตอร์),มาร์วิน แพล็ทเทนฮาร์ดท์ (มักซิมิเลียน มิทเทิลส์เทิดท์),

ซานติอาโก้ อัสซาซิบาร์ (วลาดิเมียร์ ดาริด้า),ซูอัต แซร์ดาร์ (โยนาส ดริกเนอร์),โดดี ลูเคบากิโอ (มาร์ลอน มอร์เกนสไตน์),จาวาโร ดิลโรซุน (เดนนิส ยัสท์เซ็มสกี้),เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง (สเตฟาน โยเวติช),ดาวี เซลเก้ (รูเวน เวิร์ธมุลเลอร์)

ลิเวอร์พูล (4-3-3): ควีวิน เคลเลเฮอร์ (อาเดรียน),เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เนโก วิลเลียมส์),โฌเอล มาติป (นาธาเนียล ฟิลลิปส์ -เฟอร์กิล ฟาน ไดค์),อิบราฮิม่า โกนาเต้ (รีส วิลเลียมส์-โจ โกเมซ),คอสตาส ซิมิคาส (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน),

หวนคืนสนาม ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เคอร์ติส โจนส์),เจมส์ มิลเนอร์ (เลจ์ตัน คลาร์กสัน),นาบี เกอิต้า (ไทเลอร์ มอร์ตัน),โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ไคเด้ กอร์ดอน),ทาคุมิ มินามิโนะ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน),ซาดิโอ มาเน่ (ดีโอโก้ โชต้า) สมบูรณ์แบบ